ฝาน้ำเงิน : สารสกัดชีวภาพปลอดภัย ใช้ป้องกัน-รักษาโรคพืช, ไล่แมลงศัตรูพืช

Message Body:
ฝาน้ำเงิน : สารสกัดชีวภาพปลอดภัย ใช้ป้องกัน-รักษาโรคพืช, ไล่เพลี้ย หนอน แมลงศัตรูพืช มีส่วนผสมของสารธรรมชาติที่สกัดจากการหมัก อุดมไปด้วยกรดอินทรีย์, สารชีวนะจากแบคทีเรีย, เชื้อรา และสารกำจัดสารพิษ (Bacteriocins, Iturins and Killer Toxins)

คุณสมบัติ
-ใช้ได้ทั้งป้องกันและรักษาโรคพืชที่เกิดจากแบคทีเรีย( Pseudomonas sp, Xanthomonas sp, Erwinia sp, และ เชื้อรา(Colletotricum sp, Sclerotium sp, Phytium sp, Rhizoctonia sp,Phytophthera sp, Alternaria sp, Oidium sp, Peronospora sp เป็นต้น)
-ใช้ยับยั้งไข่หนอนไม่ให้ฝักเป็นตัว และไล่แมลงศัตรูพืช
-ใช้ทาแผลเน่าไม้ผล, ยางพารา, ต้นมีปัญหาเปลือกแตกยางไหล(ติดเชื้อราไฟทอปธอร่า) ให้เฉือนแผลเน่าออกโดยนำเปลือกแผลเผาทิ้งนอกสวน ไม่ควรให้หล่นพื้นดินเพราะจะทำให้มีเชื้อโรคค้างในดิน จากนั้นใช้แปรงทาสีจุ่มน้ำฝาน้ำเงินที่เข้มข้นแบบเพียวๆทาให้ทั่วบริเวณแผล จะเห็นผลได้เร็ว แผลจะแห้งหายหลังผ่านไป1วัน (กรณีมีฝนตกตามมา ให้ทำใหม่อีกครั้ง)
-ใช้แช่เมล็ดและท่อนพันธุ์พืชก่อนปลูก,แช่ผลไม้ ผัก และดอกไม้หลังเก็บเกี่ยว เพื่อให้มีความสดยาวนานขึ้น (ผสมฝาน้ำเงิน 60ซีซี.ต่อน้ำ 20ลิตร)

อัตราผสม
1.กรณีใช้รักษาโรคแบคทีเรีย ใช้ฝาน้ำเงิน 60 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
2.กรณีใช้รักษาโรครา ใช้ 100 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร (พ่นติดต่อกัน 2 วัน จะเห็นผลได้ดียิ่งขึ้น)
**ก่อนการฉีดพ่นฝาน้ำเงิน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงควรผสมกับสารจับใบก่อนฉีดพ่นหรือ หรือน้ำยาซันไลน์ หรือสารเสริมฤทธิ์ โดยใช้ 3-5 ซีซี.ในถังน้ำ20ลิตร แล้วคนให้เข้ากันก่อนฉีดพ่น, ควรวางขวดฝาน้ำเงินให้ห่างจากมือเด็ก***

วิธีใช้ฝาน้ำเงิน :
-ให้ใช้กับน้ำสะอาด เช่นน้ำฝน น้ำประปา ควรงดใช้น้ำสกปรก น้ำเน่าในคลอง จะมีผลทำให้สารสกัดลดคุณภาพ ในกรณีผสมน้ำ 20ลิตร หากน้ำเป็นด่างให้ใส่น้ำส้มสายชู(ชนิด90-99%) กับน้ำก่อนเพื่อปรับลดด่าง(หากไม่มีไม่ต้องใช้) กรณีพืชใบบางใช้ 1-2 ช้อนชา หรือ 5-10 ซีซี. กรณีพืชใบหนาใช้ 20-30ซีซี. (หากน้ำบาดาลมีด่างเยอะ หากนำใช้กับพืชใบหนา เช่น ต้นทุเรียน ให้ใส่เพิ่มเป็น 50 ซีซี) โดยนำฉีดพ่นที่ใบพืชเป็นฝอยละอองทั่วทรงพุ่ม ทั้งหน้าใบหลังใบพืช (หากไล่เพลี้ยให้ฉีดซ้ำติดต่อกัน2วัน)
-สามารถนำฉีดได้ทุกช่วงเวลาโดยเฉพาะช่วงกลางวันอากาศร้อนจะยิ่งมีประสิทธิภาพ (หากฝนตกต้องฉีดใหม่่)หากพบมีการระบาดของโรคพืชและต้องการฉีดเพื่อคุมโรคพืชให้ฉีดติดต่อกัน2-3วัน
-ช่วงพืชออกดอกควรงดฉีดฝาน้ำเงิน เพราะแมลงจะไม่มาผสมเกสรและจะกระตุ้นเกิดเกสรดอกตัวผู้เยอะขึ้น
-ในช่วงที่พืชผลยังไม่ออกดอก สามารถฉีดพ่นได้ตามปกติ แต่หากติดดอกในช่วงผสมเกสรอาจชะลอไว้ก่อน หลังจากพืชออกเป็นช่อดอกหรือแทงช่อดอกออกแล้ว ก็สามารถฉีดพ่นได้ตามปกติ

หมายเหตุ.-
-หากต้นพืชพบปัญหาโรคราไฟทอปธอร่า(โรครากโคนเน่า) ใช้ฝาน้ำเงิน 100ซีซี ต่อน้ำสะอาด 20ลิตร นำมาราดที่รากรอบทรงพุ่ม จะแก้ปัญหาได้เร็ว
-หากต้นพืชมีปัญหามาก พืชมีอาการใกล้ตายจากเชื้อโรคในดินที่ทำลายรากพืชไปมากกว่า50%ไปแล้ว เพื่อระงับเชื้อโรคโดยเร็วและเพื่อรักษารากที่ยังดีให้คงอยู่ต่อไป ให้ใช้ฝาน้ำเงิน 500ซีซี.ต่อน้ำ10ลิตรราด จากนั้นเว้น 2-3วัน นำน้ำที่แช่ผงจุลินทรีย์ 1คืน (ผงจุลินทรีย์ 1ซอง100กรัม แช่น้ำได้ 200ลิตร) นำมาราดลงโคนดินเพื่อให้มีจุลินทรีย์ป้องกันโรคในดินได้ยาวนานต่อไป
-การฉีดพ่นฝาน้ำเงินที่ผสมแล้ว ให้ปรับหัวฉีดเป็นฝอยละเอียดฉีดทั่วทรงพุ่ม ทั้งบนใบใต้ใบ(ไล่เพลี้ยฉีด2วันติดต่อกัน) ไม่จำเป็นต้นฉีดให้ชุ่มโชก จะสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น
-ฝาน้ำเงินสามารถนำฉีดพ่นได้ทุกช่วงเวลาโดยเฉพาะช่วงกลางวันอากาศร้อน จะยิ่งมีประสิทธิภาพ
-ฝาน้ำเงิน สามารถใช้ร่วมกับสารเคมีชนิดอื่นๆได้(ใช้ 40ซีซี ต่อน้ำที่ผสมสารเคมีแล้ว 20ลิตร)
-สารจากฝาน้ำเงินมีฤทธิ์เป็นกรด แต่เป็นชีวภาพ ไม่มีอันตราย จึงไม่มีอันตราย ในขณะที่ฉีดพ่น จึงไม่จำเป็นต้องปิดตา ปาก จมูก
-ห้ามนำฝาน้ำเงินมาผสมใช้พร้อมกันกับฝาเขียวหรือผสมใช้กับน้ำจุลินทรีย์ เพราะจะทำให้คุณภาพของสารต่างๆมีประสิทธิภาพลดลง